โรคตับแข็ง
ตับมีหน้าที่ทำลายสารพิษ หรือของเสียออกจากเลือด สร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อต้านเชื้อโรค สร้างสารเพื่อให้เลือดแข็งตัว สร้างน้ำดีเพื่อย่อยอาหารและดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน ผู้ป่วยที่เป็นโรคตับแข็ง เนื้อตับที่ถูกทำลายจะมีผังผืดแทรกและเบียดเนื้อตับที่ดีทำให้เลือดไปเลี้งที่ตับน้อยลง
สาเหตุของโรคตับแข็ง
การดื่มสุรา มากกว่า 160 กรัมต่อวัน เทียบเท่ากับ สุราวิสกี้ 480 ซีซีต่อวัน ไวส์ 1,800 ซีซีต่อวัน เบียร์ 4 ลิตร ต่อวัน เป็นเวลา 8-10 ปี ปริมาณของสุราที่ทำให้เกิดโรคตับแข็ง แปรผันตามแต่ละบุคคล เพศ
ไวรัสตับอักเสบ บี,ซี
ภาวะดีซ่านเรื้อรัง จากท่อน้ำดีอุดตัน เนื่องจากนิ่วอุดตันท่อน้ำดี หรือเนื้องอกอุดตัน หรือเบียดท่อน้ำดี
ภาวะหัวใจวายเรื้อรัง ทำให้เลือดคั่งที่ตีบ เลือดไหลเวียนในตับลดลง เนื้อตับเกิดภาวะขาดออกซิเจน ทำให้เซลล์ตับตาย
โรคตับอักเสบจากภูมิต่อต้านตนเอง เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันมาทำลายตับตนเอง โรคนี้พบน้อย
โรคกรรมพันธุ์บางชนิด เช่น โรควิลสัน มีการสะสมทองแดงในตับ hemochromatosis มีการสะสมเหล็กมากในตับ
โรคตับอักเสบจากไขมันสะสมที่ตับ พบในโรคไขมันสูง เบาหวาน อ้วน
อาการ : ผู้ป่วยตับแข็งในระยะแรกจะไม่มีอาการ เมื่อตับแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเกิดอาการของโรคตับแข็งได้แก่ อ่อนเพลีย คลื่นไส้
ถ้าอาการโรคเป็นมากขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจมาด้วยอาการของโรคแทรกซ้อนของโรคตับแข็ง เช่น บวม ตาเหลือง ตัวเหลือง สูญเสียความจำ อาเจียนเป็นเลือดจากการแตกของหลอดเลือดดำ ท้องมาน มะเร็งตับ ไตวาย
การรักษา
เมื่อเกิดโรคตับแข็งขึ้นแล้ว ในขณะนี้ยังไม่มียาใดๆที่สามารถให้ตับกลับมาเป็นปกติได้ นอกจากป้องกันไม่ให้ตับแข็งเป็นมากขึ้น โดยการรักษาสาเหตุ เช่น งดดื่มสุราจากรายที่มีสาเหตุจากสุรา รักษาไวรัสตับอักเสบเรื้อรัง ในรายที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บีและซี
ผู้ป่วยตับแข็งควรได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ ควรได้อาหารครบถ้วน ควรหลีกเลี่ยงสารพิษต่อตับ เช่น สุรายาที่มีผลเสียต่อตับ เช่น พาราเซตามอล
ในรายที่มีอาการบวม ขา หรือท้องมานควรลดการรับประทานเกลือ อาหารดองเค็ม น้ำปลา ซีอิ๊ว เพราะจะทำให้บวมมากขึ้น ในรายบวมมาก แพทย์จะสั่งยาขับปัสสาวะ เพื่อลดอาการบวม
การผ่าตัดเปลี่ยนตับ เป็นการรักษาที่ดีที่สุด แต่มีข้อจำกัดที่มีค่าใช้จ่ายสูง และตับที่มีผู้บริจาคมีจำนวนน้อย ผู้ป่วยเปลี่ยนตับทานยากดภูมิคุ้มกันไปตลอด
อ้างอิง : https://www.thonburihospital.com/Cirrhosis.html